ขุนแผนข้างขีด หรือ กลีบบัวสมาธิ ข้างขีด หลวงพ่อห่วง วัดท่าใน นครปฐม เนื้อดินดิบ

.. หลวงพ่อห่วง เป็นชาวนครปฐมโดยกำเนิด เกิดที่ อ.สามพราน เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๔๒๘ พออายุได้ ๒๒ ปี อุปสมบท ณ.พัทธสีมาวัดทรงคนอง จ.นครปฐม หลวงพ่อรุ่ง เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อมี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ หลวงพ่อแจ่ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “สุวณฺโณ”
.. ท่านเป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ ถือสมถะ รักสันโดษ และใฝ่ใจศึกษาพระธรรมวินัยและวิปัสสนาธุระจนแตกฉาน เมื่อถึงช่วงออกพรรษาท่านมักจะออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ แสวงหาที่สงบ เพื่อปลีกวิเวกและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน .. พระเกจิสามรูปจะออกธุดงค์ร่วมกันเสมอทุกปีมิได้ขาด ประกอบด้วย หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อห่วง วัดท่าใน และ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม .. ครั้งหนึ่งขณะที่เดิน ธุดงค์ผ่านเข้าไปในป่าดงดิบแถบกาญจนบุรี ไปพบกระทิงโทนตัวหนึ่ง มันไล่ขวิดเข้าทำร้าย หลวงพ่อเงินและหลวงพ่อเต๋ได้เดินหลบไป แต่หลวงพ่อห่วงกลับไม่หลบ ยังคงยืนภาวนาพระคาถาอยู่ตรงที่เดิม เมื่อเจ้ากระทิงโทนวิ่งเข้าใส่ไล่ขวิดก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่มันขวิดไปไม่ถึงตัวท่าน คงขวิดได้แค่ดินตรงหน้าท่านเท่านั้น จนฝุ่นตลบอบอวลไปทั่ว หลังจากขวิดได้สักพัก มันก็แผดเสียงร้องคำรามแล้ววิ่งหนีไป .. ท่านได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อหรุ่น วัดช้างเผือก อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พระอาจารย์รุกขมูลชื่อดัง

.. พรรษาที่หก มาปักกลดที่บริเวณวัดท่าใน อ.นครชัยศรี ซึ่งขณะนั้นชำรุดทรุดโทรมมาก ชาวบ้านเห็นวัตรปฏิบัติแล้วเกิดความเลื่อมใสศรัทธา พร้อมใจกันอาราธนาท่านให้จำพรรษาที่วัดท่าใน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการบูรณปฏิสังขรณ์วัด .. ซึ่งนอกเหนือจากพัฒนาและบำรุงเสนาสนะต่างๆภายในวัดให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับแล้ว ท่านยังคงปฏิบัติกิจสงฆ์อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง สั่งสอนธรรมะ แนะนำช่วยเหลือผู้เดือดร้อน เป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวบ้านและพื้นที่ใกล้เคียง

.. จนปีพ.ศ.๒๔๗๕ ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าใน และสมณศักดิ์สุดท้ายได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ที่พระครูสิริวุฒาจารย์ ท่านมรณภาพในปีพ.ศ.๒๕๐๖ สิริอายุรวม ๗๕ ปี พรรษาที่ ๕๖ งานพระราชทานเพลิงศพวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๗

.. นอกจากวัตถุมงคลประเภทเหรียญรูปเหมือนที่ระลึก ตะกรุดโทน ผ้ายันต์ต่างๆแล้ว ก็ยังมีประเภทเนื้อผงและเนื้อดิน เท่าที่พบมีพิมพ์กลีบบัวสมาธิ เนื้อใบลาน และ เอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใครก็คือพิมพ์ขุนแผนข้างขีด หรือ กลับบัวสมาธิข้างขีด บ้างก็เรียกหลังตาราง สร้างด้วยเนื้อดินเผา ใบลานเผา และ ดินดิบ สร้างประมาณปี๒๔๘๐-๒๔๙๐
.. องค์นี้เนื้อดินดิบ พิเศษที่ไม่ตัดขอบ ปั้นดินเป็นลูกแล้วกดเข้าพิมพ์ ตากแห้งไม่ได้เข้าเตาเผา พิมพ์พระมาตรฐาน เนื้อหาดินดิบเก่าแท้และดูง่ายๆ ของดีที่หาไม่ง่ายแล้วครับ