พระปิดตานำโชค ปี ๒๕๓๑

รูปพระเครื่อง
รูปพระเครื่อง

รายละเอียด

พระปิดตานำโชค ปี ๒๕๓๑
 ขายแล้ว
..:: อธิบายเพิ่มเติม ::..

พระปิดตานำโชค ปี ๒๕๓๑ เนื้อผงคลุกรัก(องค์นี้รักจีน สร้างไม่เกิน 200 องค์) ของสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระญาณสังวร
พระปิดตานำโชค" ของสมเด็จพระญาณสังวร เป็นผงคลุกรักแบบลอยองค์ ทั้งองค์ ซึ่งสร้างได้ยากยิ่งกว่า จะเห็นได้ว่าพระปิดตาองค์นี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จระสังฆราช ตั้งพระทัยอย่างยิ่งที่จะสร้างมาเพื่อที่จะมอบโชคลาภแก่สานุศิษย์จริงๆ พระองค์มีความพิถีพิถันในการสร้างได้งดงามอย่างยิ่ง แม้นกรรมวิธีในการสร้างแสนจะยุ่งยาก และยังทรงนำไปอธิฐานจิตตลอด 3 เดือนเต็มขณะที่เข้าพรรษา ในปี 2531 และทรงนำมาประทานแก่ศิษย์และผู้ศรัทธา ในโอกาส 75 พรรษา วันที่ 3 ตุลาคม 2531
สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) วัดบวรนิเวศวิหาร (วัดบวรนิเวศ ราชวรวิหาร) พระอภิบาล(พระพี่เลี้ยง) รัชกาลที่ ๙
ในในวาระ ๗๕ พรรษา วันที่ ๓ ตุลาคม ปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ทรงตั้งพระทัยให้ผู้ได้รับให้ได้เป็นตัวแทนพระองค์ซึ่งเต็มเปี่ยมด้วย
ความเมตตาอุตสาหะ ให้ประทานพรแทนพระองค์ให้มีความเจริญก้าวหน้า มีโชคลาภ การค้าเจริญรุ่งเรื่อง แคล้วคลาดปลอดภัย
ได้รับความรักความนิยม ดังได้เห็นได้จากความตั้งพระทัยในการสร้าง "พระปิดตานำโชค" ซึ่งพระองค์ทรงสร้างในรูปแบบ
"พระปิดตาผงคลุกรัก" ลอยองค์ สูตรหลวงพ่อแก้ว ซึ่งขึ้นชื่อว่าสร้างได้ยากที่สุด ดังมีข้อจัดกัดที่ได้เคยกล่าวแล้วไปแล้วนั้น
อีกทั้งยังสร้างได้งดงามถูกต้องตามพุทธลักษณ์อย่างลงตัว และยังตั้งทัยอธิษฐานจิตอย่างยาวนานต่อเนื่องถึง ๓ เดือนเต็ม
ฉ่ำไปด้วยพระพุทธมนต์อันศักสิทธิ์ ด้วยความวิริยะอธิฐานจิตอย่างยาวนาน ทรงไว้ซึ่งความศักสิทธิ์ให้แก่"พระปิดตานำโชค" องค์นี้
พระปิดนำโชค ปี ๒๕๓๑ มวลสารประกอบด้วย
๑ . ) ผงจิตรลดา
๒ . ) ผงสายหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์
๓ . ) ผงหลวงปู่เฮี้ยง วัดอรัญญิกาวาส (วัดป่า)
๔ . ) ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
๕ . ) ผงสมเด็จวัดระฆังชำรุด
๖ . ) ผงหลวงพ่อทวด วัดช้างให้
๗ . ) ผงสมเด็จบางขุนพรหม
๘ . ) ผงพระวัดรังสี
๙ . ) ผงวัดสามปลื้ม
๑๐.) ผงวัดเงินคลองเตย
นอกจากนั้นยังมีผงพุทธคุณ กับ พระเกศา
สมเด็จพระญาณ สังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๑๙
พระปิดตาผงคลุกรักแบบลอยองค์ทั้งองค์ งามพุทธศิลป์ เปี่ยมพุทธคุณ
.
"พระปิดตา"เป็นพระเครื่องประเภทหนึ่งซึ่งมีพุทธศิลปะเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากพระเครื่องประเภทอื่นๆ จนกลายเป็นความโดดเด่นและได้รับความนิยมอย่างสูงยิ่งในหมู่พุทธศาสนิกชน
.
พุทธลักษณะของพระปิดตา เป็นรูปองค์พระที่ค่อนข้างอวบอ้วน ยกพระหัตถ์ขึ้นปิดพระพักตร์ พระปิดตาเป็นพระเครื่องที่แสดงถึงนัยหรือ "ปริศนาธรรม" แห่งงานพุทธศิลปะอย่างโดดเด่น ความหมายเบื้องต้นแห่งการปิดตา คือ การปิด "ทวาร" หรือทางเข้าทางออกแห่งอาสวะกิเลสทั้งหลาย ซึ่งเราเชื่อกันว่าร่างกายของมนุษย์ (หรือสัตว์) มี "ทวาร"
.
พระปิดตาผงคลุกรัก งดงามด้วยพุทธศิลป์ เปี่ยมด้วยพุทธคุณ เป็นสุดยอดปรารถนาของบรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคล ที่สร้างได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะ"พระปิดตาคลุกรักลอยองค์ อย่างหลวงพ่อแก้วพิมพปั๊ม หรืออย่าง "พระปิดตานำโชค" ของสมเด็จพระญาณสังวร ที่สร้างได้งดงามยิ่ง
.
กล่าวว่า การสร้างพระปิดตาเนื้อผงคลุกรักเป็นการสร้างพระที่ยากยิ่ง ยิ่งถ้าสร้างพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก แบบลอยองค์ ถือว่ายากที่สุดก็เนื่องมาจากมีข้อจำกัดมากมายในการสร้างในกระบวนการผลิต
..
ซึ่งกระบวนการผลิตพระปิดตานั้นมีความซับซ้อนมาก ไม่เหมือนกับการสร้างพระอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของเหรียญ เราสามารถจ้างช่างแกะแม่พิมพ์ได้ ซึ่งแม่พิมพ์ของเหรียญในสมัยก่อนจะมีเพียงแบบเดียวคือแม่พิมพ์ศิลปะนูนต่ำ (Bas Relief) ส่วนลักษณะที่เป็นศิลปนูนสูง (High Relief) เป็นศิลปที่เกิดขึ้นในชั้นหลัง ประมาณปี2500 ลงมา ดังนั้น รูปแบบของการผลิตก็คือแกะแม่พิมพ์ออกมาแล้วปั๊ม ซึ่งก็ไม่ใช้เรื่องยาก
.
ในเรื่องของพระเนื้อดิน พระเนื้อผง ก็มีกระบวนการแกะแม่พิมพ์แล้วกด การผสมผงก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีเวลาทำเมื่อไหร่ก็ได้ คลุกเคล้ากับน้ำมันตังอิ้ว คลุกเคล้ากับน้ำอ้อย ซึ่งรอเวลาได้ ขณะที่ทำผงทิ้งไว้เป็นเดือนมากดที่หลังยังได้เลย
จะเห็นว่าทุกอย่างสามารถที่จะรอเวลาในการผลิตได้ทั้งสิ้น มีแต่ "เนื้อผงคลุกรัก" เท่านั้นที่ไม่สามารถรอเวลาได้เลย เหตุเดียวที่รอเวลาไม่ได้ ตัวแปรที่สำคัญก็คือ "น้ำรัก" นั่นเอง น้ำรักนั้น ทำไม เราต้องมาท้าวความเรื่องพวกนี้ ก็เพราะมันเป็นเรื่องเบื้องต้นที่เราควรรู้ก่อน มันเป็นเรื่องสำคัญมาก ส่วนเรื่องโครงสร้าง หรือ ดีเทลต่างๆ ของรูปพระปิดตา ก็จะเหมือนการศึกษาโดยทั่วๆไป ใครศึกษาเหรียญได้ ศึกษาพระเบญจภาคีได้ ศึกษาพระกริ่ง-รูปหล่อได้ พระปิดตาก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเขาถูกกำหนดด้วยแบบ ถูกกำหนดโดยโครงสร้าง และรายละเอียดของเขาอยู่แล้ว เขาเคยอยู่ตรงไหน ก็จะอยู่ตรงนั้นชั่วชีวิต เป็นมิติองศาที่ถูกล็อคสเป็กมาแล้ว เขาไม่เคยดิ้นรนออกจากตรงนั้นตราบใดที่พระองค์นั้นยังอยู่ในคอนเซ็ปต์ของแม่พิมพ์ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่ศึกษาได้ไม่ยาก
โดยปกตการสร้างพระทั่วๆไป ต้องมีการผสมตัวประสานลงในเนื้อพระด้วย ซึ่งหลักๆมีอยู่ 2-3 แบบ ด้วยกัน คือ
1. ) ใช้น้ำมันตังอิ้ว ซึ่งใช้กับพระเนื้อผงทั่วไป เป็นสิ่งที่รอเวลาในการผลิตได้
.
2 . ) ใช้น้ำตาลโตนดเคี่ยวจนเหนียวได้ที่ แล้วมาผสมกับผงที่เตียมไว้ อันนี้ก็ยังรอเวลาได้เช่นกัน
.
3 . ) ใช้น้ำรัก (ยางจากต้นรัก) ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน
.
ประเภทแรก ใช้ "รักน้ำเกลี้ยง" รักน้ำเกลี้ยงเกิดจากอะไร รักน้ำเกลี้ยงเกิดจากยางของต้นรัก ซึ่งได้มาด้วยวิธีกรีดยางจะได้น้ำยางของต้นรักออกมา ("ต้นรัก" ในที่นี้เป็นพืชชนิด Melanorrhoea-usitata Wall.ในวงศ์ Anacardiaceae ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ขึ้นในป่าทึบไม่ใช้ต้นรักที่เราเอาดอกมาร้อยมาลัย) ลักษณะของยางรักจะเป็นสีออกเหลืองใส แต่เราจะเอาน้ำยางรักนั้นมาผสมในทันทีไม่ได้ เพราะยางของรักมันมีพิษในตัว ถ้าสัมผัสหรืโดนผิวหนังหรือบางคนแค่เข้าใกล้จะมีอาการผื่นคันอย่างรุนแรง คนที่แพ้มากๆ อาจถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นเค้าจึงต้องเอารักน้ำเกลี้ยงมาฆ่าพิษก่อน โดยวิธีการต้ม ซึ่งวิธีการฆ่ายางรักนั้นเป็นวิธีเฉพาะของช่างแต่ละกลุ่มคนรุ่นเก่าที่ทำกันก็มักจะไม่ค่อยยอมเปิดเผยสักเท่าไหร่ เมื่อฆ่ายางรักเสร็จแล้วจึงเอายางรักนั้นมาผสมในเนื้อพระ ซึ่งตรงนี้อาจมีขั้นตอนที่ทำง่ายกว่าอีกประเภทหนึ่งเพราะยังสามารถรอเวลาได้เล็กน้อย
.
ประเภทที่ 2 ใช้"รักสมุก" รักสมุก ก็คือการเอารักน้ำเกลี้ยงจากประเภทแรกซึ่งฆ่าพิษแล้วนั้นมาผสมกับเถ้าใบตอง ซึ้งกรณีที่เอาน้ำรักมาผสมกับเถ้าใบตองเมื่อไรเป็นเรื่องทันที เพราะจะมีเวลาไม่มากนักเนื่องจากรักจะแข็งตัวเร็วมาก หากมัวนั่งกดพระแบบประดิษฐ์ประดอย ก็จะทำไม่ทัน ซึ่งนี่คือข้อจำกัด เพราะฉะนั้นตัวแปรตรงนี้ จึงเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยากที่จะทำพระปิดตาเนื้อผงคลุกรักออกมาให้ได้จำนวนมากและรวดเร็ว พร้อมทั้งให้ได้รายละเอียดที่ชัดเจน และก็ไม่สามารถกำหนดปริมาณได้ เพราะโดยทั่วไปแล้วการผสมผงคลุกรักสมุกในแต่ละครั้ง ถ้าทำอย่างเร็วที่สุดด้วยความชำนาญอย่างเร็วที่สุดไม่เกิน5องค์ หรือเต็มที่3องค์ก็เก่งแล้ว ส่วนในกรณีของรักน้ำเกลี้ยงนั้น พอที่จะทำได้ถึง 10 องค์ก็หมดเวลาแล้ว นี่คือคุณลักษณะของตัวประสานซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ในการพิจารณา
การนำพระทั้งองค์จุ่มลงไปในรักดิบหรือยางรักแล้วผึ่งให้แห้งเพื่อรักษาเนื้อหามวลสารขององค์พระเอาไว้เช่นตำนานการสร้างพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว “วัดเครือวัลย์”ที่จุ่มรักหรือชุบรักเพื่อมิให้ผู้ใดขูดผงบนองค์พระนำไปทำเสน่ห์เล่ห์กลผิดลูกผิดเมียผู้อื่นและนอกจากนี้การจุ่มรักเมื่อผึ่งองค์พระให้แห้งหมาดๆเมื่อนำทองคำเปลวมาติดเป็นพุทธบูชาจะสามารถติดได้แน่นสนิทสวยสดงดงามเป็นอันมาก
.
ที่มาของการจุ่มรักหรือชุบรัก ในยุคแรกๆพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว มีคนนำไปแช่ทำน้ำมนต์บ้างหรือฝนละลายน้ำไปขายเป็นยามหาเสน่ห์ หลวงพ่อกัวจึงได้นำรักมาเคลือบไว้ปกกันไว้ รักมักจะบดบังพุทธศิลปะแห่งองค์พระไปจึงมีผู้คิดวิธีทำ “รักน้ำเกลี้ยง” คือเป็นรักที่เกิดจากยางรักเช่นกัน หากแต่มีสีขาวใสเหมือนทาแชลแล็กเคลือบไว้สามารถแลเห็นพุทธศิลปะขององค์พระเช่นเดิม
.
ด้วยความยากในกระบวนการผลิต พระปิดตาผงคลุกรักลอยองค์ วึ่งต้องกดพิมพ์แบบโบราณ ซึ่งแม่พิมพฺมักแกะจากไม้ ไม่สามรถผลิตมาได้ที่ละจำนวนมาก อีกทั้งจะให้พุทธลักษณ์สวยงามยากยิ่ง

2023-05-24 23:33:48
199 ครั้ง
Direk-SiamPra
0959590980
0959590980