พระกลีบบัว กรุวัดบางสะแกนอก ธนบุรี​ กทม.

รูปพระเครื่อง
รูปพระเครื่อง
รูปพระเครื่อง

รายละเอียด

พระกลีบบัว กรุวัดบางสะแกนอก ธนบุรี​ กทม.
 ขายแล้ว
..:: อธิบายเพิ่มเติม ::..

พระกลีบบัวเนื้อดินกรุวัดบางสะแกนอก. ตลาดพลู ฝั่งธนบุรี กรุเทพฯ สภาพแบบนี้ เนื้อเขียวหายากครับ

บทความด้านล่างจากหนังสือพิมพ์ข่าวสดครับ
พันธุ์แท้พระเครื่อง
โดย : ราม วัชรประดิษฐ์
ย้อนไปในปีพ.ศ.2511 "เจดีย์เก่าหลังอุโบสถ วัดบางสะแกนอก เขตตลาดพลู ฝั่งธนบุรี" ซึ่งสร้างมานานกว่า 100 ปี ได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
ขณะที่พระลูกวัดกำลังทำความสะอาดบริเวณนั้นและช่วยกันรื้อพระเจดีย์เก่าเพื่อที่จะบูรณะใหม่ ก็ปรากฏ "พระเนื้อดิน" ไหลทะลักออกมาจำนวนมาก
เมื่อเรื่องทราบถึงพระครูไพโรจนคุณ เจ้าอาวาสสมัยนั้น จึงให้ไปนำพระมาเก็บรักษาไว้ก่อนที่จะสูญหายไปเสียหมด เรียกกันว่า"พระกรุวัดสะแกนอก"
พระกรุวัดสะแกนอกเป็นพระเนื้อดินเผาผสมใบลานเผาไฟ เนื้อองค์พระมีสีต่างๆ ตามธรรมชาติการเผาของพระเนื้อดินทั่วไป
ส่วนใหญ่เป็นเนื้อดำจัดบ้างไม่จัดบ้าง ที่พบเห็นมี 2 พิมพ์ คือ
พระนั่งสมาธิบนกลีบบัว
และพระปิดตามหาลาภ (พระภควัมบดี)
ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก
โดยสภาพองค์พระที่อยู่หน้ากรุไม่ถูกน้ำจะงดงาม ส่วนองค์ที่แช่อยู่ในน้ำส่วนต่างๆ จึงลบเลือน ทำให้ด้อยความงดงามลงไป
จากการสันนิษฐานที่ไปที่มาของพระกรุวัดสะแกนอกแล้ว ตามเนื้อหาและพุทธศิลปะนั้นมีเอกลักษณ์ต่างๆ ใกล้เคียงกันมากกับพระที่สร้างโดยหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
เหตุผลสนับสนุนอีกประการ คือ ถึงแม้เจดีย์จะอยู่ภายในพื้นที่วัดสะแกนอก แต่วัดที่อยู่ใกล้เคียงกับองค์เจดีย์มากที่สุด คือ "วัดบางสะแกใน" ซึ่งสมัยนั้นเจ้าอาวาสคือ หลวงปู่เม่ง ศิษย์เอกของหลวงปู่ศุข ที่ชาวบ้านตลาดพลูเคารพนับถืออย่างมาก
ประกอบกับคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่จึงสันนิษฐานได้ว่า น่าจะเป็นพระที่หลวงปู่เม่งนำมาฝากกรุไว้ และหลวงปู่ศุขอาจได้ร่วมปลุกเสกพระชุดนี้ด้วย
เพราะพุทธคุณที่ปรากฏนั้นเข้มขลังครบครันในทุกด้าน ซึ่งมีความเป็นไปได้ เนื่องจากหลวงปู่ศุขมักได้รับนิมนต์เข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมปลุกเสกอธิษฐานจิตวัตถุมงคลต่างๆ เป็นเนืองนิตย์ และท่านก็สนิทกับพระเกจิหลายรูปแถบฝั่งธนบุรี จึงอาจจะมาจำพรรษากับหลวงปู่เม่ง ผู้เป็นศิษย์เอก
อัตโนประวัติของหลวงปู่เม่งนั้น
เดิมท่านเป็นชาวชัยนาท เกิดที่บ้านโคกหม้อ ต.หน้าพระลาน อ.สรรคบุรี
ฐานะทางบ้านยากจน จึงได้ส่งท่านไปอยู่วัดตั้งแต่เด็ก
จนเมื่อมีอายุครบบวชได้อุปสมบทที่ วัดท่าวน อ.สรรคบุรี ศึกษาคันถธุระและวิปัสสนาธุระ รวมทั้งวิชาอาคมต่างๆ ได้ระยะหนึ่ง
ก็เดินทางไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมที่วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
ต่อมาเดินทางสู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาอาคมและไสยศาสตร์ชั้นสูงจากหลวงปู่ศุข
ด้วยความที่ท่านเป็นคนใฝ่ใจศึกษาและสนใจในด้านนี้เป็นทุนเดิม จึงสามารถเรียนรู้จนแตกฉานเชี่ยวชาญในทุกวิชาที่หลวงปู่ศุขถ่ายทอดให้
หลังจากนั้นได้ออกธุดงค์มายังกรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาพระธรรมเพิ่มเติม จนกระทั่งมาจำพรรษาที่วัดบางสะแกใน เขตตลาดพลู
ท่านเป็นที่เคารพรักและศรัทธาของชาวบ้านอย่างมาก ครั้นในปีพ.ศ.2460 เจ้าอาวาสองค์เดิมลาสิกขา ชาวบ้านจึงร่วมใจกราบเรียนให้หลวงปู่รับตำแหน่งเจ้าเอาวาสสืบต่อ แต่ด้วยท่านรักสันโดษและสมถะจึงได้ปฏิเสธไป จนชาวบ้านต้องไปกราบเรียนท่านเจ้าคุณทักษิณคณิสร (สาย) วัดอิน (วัดใต้) ให้มาช่วยพูดให้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส เพื่อดูแลสืบสานพระบวรพุทธศาสนาและเผยแผ่ธรรมะสู่ญาติโยม หลวงปู่จึงยอมรับและได้ปกครองวัดบางสะแกในสืบมา
วัตถุมงคลของท่านเป็นที่นิยมอย่างมากของชาวตลาดพลูและพุทธศาสนิกชนทั่วไป เป็นที่ร่ำลือกันว่า "เหนียวยิ่งนัก" ทีเดียว
สมัยก่อนนั้นชาวตลาดพลูมักกล่าวกันว่า ... "ถ้าจะหาพระด้านเมตตา ค้าขาย ต้องแขวนพระเครื่องหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี แต่ถ้าจะหาพระที่เหนียวสุดๆ ต้องพระของหลวงปู่เม่ง วัดบางสะแกใน"
สำหรับ "พระกรุวัดสะแกนอก" นี้แรกเริ่มหลังแตกกรุไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ด้วยเป็นพระกรุที่มีอายุการสร้างยังไม่มากนัก และในช่วงนั้นมีพระกรุอื่นๆ มากมายที่มีอายุอานามมากกว่า เป็นที่น่าสนใจให้เช่าหาบูชาสะสม แต่ต่อเมื่อ 10 ปีให้หลังปรากฏว่าผู้มีไว้ครอบครองต่างประสบปาฏิหาริย์เป็นที่ปรากฏ ทั้งแคล้วคลาด เมตตา มหานิยม และคงกระพันครบครันเป็นเลิศ จนเป็นที่เลื่องลือของชาวตลาดพลู ต่างเสาะแสวงหามาคู่กาย
เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป "พระกรุวัดสะแกนอก" จึงกลายเป็นที่นิยมในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องพระบูชา ได้ข่าวว่ามีชาวสิงคโปร์ได้เข้ามากว้านเช่าจากคนในพื้นที่ไปคราวละหลายองค์ ทำให้ค่านิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ลดหลั่นกันไปตามความสมบูรณ์สวยงามขององค์พระตอนนี้หาสวยๆสมบูรณ์ยาก ใครสะสมได้สะสมไหว แนะนำให้เก็บพระดีๆ ราคาก็ถูก
เคยเห็น เซียนพระสาย ชัยนาท นำภาพที่สะสมพระชุดนี้มาให้ชม สะสมเป็นโหลใหญ่ๆเลยครับท่าน
ลักษณะของพระ
เป็นพระเนื้อดิน พิมพ์กลีบบัว มีสีต่างๆตามธรรมชาติการเผาของพระเนื้อดิน
พิมพ์นี้โดยมากจะกดพิมพ์มีปีกด้านข้าง และจะมีรอยบิ่นมากบ้างน้อยบ้างในแต่ละองค์ พระกรุอายุเป็นร้อยปี มีรอยบิ่นแบบนี้ไม่แปลกครับ
ที่สำคัญหลายๆองค์จะมีรารัก(ราที่เกิดบนผิวพระเนื้อดิน) นำไปเป็นศึกษาพระกรุเนื้อดินกรุอื่นๆได้
พระกรุวัดบางสะแกในสมัยก่อนยังพอมีให้เก็บหากันได้ ปัจจุบันองค์สวยๆโดนเซียนใหญ่เก็บเข้ารังหมด องค์ไม่สวยยังเริ่มหายากเลย พระดี ประสบการณ์สูงมาก

2023-07-20 05:02:22
283 ครั้ง
ตั้ม ลพบุรี
0940194220
tumamulet